นี่สิ คือ ความเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริงของธรรมศาสตร์ในยุคปัจจุบัน
- ยุคแห่ง 14 ตุลา, 6 ตุลา ที่นักศึกษาถูกคอมมิวนิสต์ล้างสมองนั้นได้จบลงไปแล้ว
- ชื่อ "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง (มธก.)" ที่ ปรีดี พนมยงค์ ตั้งขึ้นนั้นเป็นแค่ gimmick หรูๆ ปรีดีคงจะคิดอะไรไม่ออกเลยใส่คำว่า "การเมือง" เข้าไปในชื่อโก้ๆ
- แนวทางของ สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. คนปัจจุบัน คือการสืบต่อเจตนารมณ์ที่แท้จริงของปรีดี ผู้ซึ่งจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์อย่างล้นพ้น อันจะเห็นได้จากการเชิดชูพระเกียรติของ ร. 7 ในร่างประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1
- วจีอมตะของปรีดีที่เปรียบมหาวิทยาลัยเป็น "ประดุจบ่อน้ำ บำบัดความกระหายของราษฎร" นั้นไม่ได้แย้งกับการห้ามเคลื่อนไหวรณรงค์แก้ ม. 112 [โดยเฉพาะกิจกรรมของคณะนิติราษฎร์]เลยแม้แต่น้อย เพราะตามเหตุผลของสมคิด "มหา'ลัยเป็นสถานที่ราชการ" การอันใดที่ทำให้มหาวิทยาลัยดูไม่เป็นราชการ จึงไม่สมควร
- ก่อนหน้านี้ประชาชนมองบทบาททางการเมืองของมหาวิทยาลัย (ไม่ใช่แค่ มธ.) ในทางชื่นชมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการลงชื่อขอนายก ม. 7, การสนับสนุน(ทั้งทางตรงและทางอ้อม)การปล้นอำนาจประชาชน, รวมไปถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนว่านายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามวิถีประชาธิปไตยนั้นเลวร้ายอย่างไร เผอิ๊ญ..เผอิญ ที่มีนักวิชาการส่วนน้อยไม่กี่คน เช่น คณะนิติราษฎร์ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองจนทำให้ภาพพจน์ของนักวิชาการ-อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ดีต้องแปดเปื้อน